TikTok ใบไม้ พลังงาน และฉัน



วันนี้ ฉันนั่งเลื่อนมือถือไปเรื่อย ๆ เหมือนทุกวัน นิ้วก็ปัดหน้าจอไปโดยไม่ต้องคิดอะไรเหมือนมันจะรู้ทางมากกว่าสมองฉันด้วยซ้ำจนกระทั่งคลิปหนึ่งทำให้ฉันหยุดดูจนจบแล้วถึงกับต้องไล่ตามอ่าน comment ซึ่งเป็นฝรั่งทั้งหมด จนแอบสงสัยว่า ทำไมคนไทยอย่างฉันถึงถูก Tiktok เลือกให้เห็นคลิปนี้ สิ่งที่อยู่ในคลิปเป็นภาพที่มันไม่มีอะไรมากเลย

ใบไม้ใบหนึ่ง…มีแสงสีม่วงเรือง ๆ ล้อมรอบ

ใต้คลิปเขียนว่า “Tudo é energia”

ซึ่งภาษาปอร์ตูเกสแปลว่า “ทุกสิ่งคือพลังงาน”


ฉันหยุดดูมันอยู่พักหนึ่ง

ไม่ใช่เพราะมันหวือหวา

แต่เพราะมันสะกิดคำถามในใจ และมีอะไรบางอย่างที่เหมือนฉุดฉันไว้

คล้ายกับมีคนมากระซิบข้างหูว่า

“ มาดูนี่สิ นี่คือสิ่งที่เธอมองไม่เห็นทุกวันหรอกนะ”

เขาบอกว่าภาพนี้ถ่ายด้วยกล้อง Kirlianกล้องที่เชื่อกันว่าสามารถถ่ายภาพพลังงานของวัตถุออกมาได้

เหมือนเป็นออร่า หรือแรงสั่นสะเทือนบางอย่างที่ซ่อนอยู่ ภาพใบไม้นั้นดูเหมือนกำลังหายใจ แม้จะไม่ไหวติง

แสงสีม่วงนุ่ม ๆ รอบตัวมันดูอบอุ่นและสงบ

จนอดคิดไม่ได้ว่า…ธรรมชาติกำลังพูดกับฉันอยู่ เหมือนเวอร์ แต่รู้สึกจริง ๆ

ใต้คลิปมีคอมเมนต์มากมายจากคนทั่วโลก

มีคนหนึ่งเขียนว่า

“ใครเคยไปอธิษฐานบนภูเขาไหม มันรู้สึกเหมือนแบบนี้เลย เหมือนไฟของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ล้อมรอบเรา”

อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

แม้ฉันจะไม่ได้นับถือคริสต์ หรือเคยไปภูเขาไหนเพื่ออธิษฐานก็ตาม

อีกคนหนึ่งแนะนำหนังสือเล่มหนึ่งว่า

“ลองอ่าน Universo em Desencanto สิ แล้วคุณจะเข้าใจทุกอย่าง”

ฉันไม่รู้หรอกว่าเล่มนั้นเกี่ยวกับอะไร

แต่ประโยคนั้นทำให้รู้สึกว่า มนุษย์เรานี่ก็แปลกดีนะ เวลาไม่เข้าใจอะไร เราก็มีความหวังเสมอว่าจะมีบางอย่างอธิบายมันได้

บางคอมเมนต์ก็เป็นเรื่องสบาย ๆ ระหว่างคนกับใบไม้

มีคนบอกว่าเขาเคยนั่งอยู่ข้างกระถางต้นไม้ แล้วก็จ้องใบไม้อยู่นาน

จนเขารู้สึกว่าใบไม้กำลังเปล่งแสงออกมา

เหมือนมีชีวิต เหมือนกำลังยิ้มให้เขา

อ่านแล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้ น่ารักนะ นี่หรือเปล่าที่แฟนฉันอยู่กับต้นไม้ได้ทั้งวัน 555

ฉันว่า…เขาไม่ได้เพี้ยนหรอก เขาแค่เงียบพอจะ “เห็น”

อีกคนหนึ่งเขียนว่า

“เวลามีใครตัดต้นไม้ หรือถอนต้นไม้ ทำให้เขารู้สึกเศร้ามาก”

มันไม่ใช่คำที่เกินจริงเลย

ฉันเองก็เคยรู้สึกแบบนั้น แต่ไม่เคยพูดออกมา

และบางครั้ง ความจริงเล็ก ๆ ที่มีคนพูดแทนเรา มันก็ชัดเจนมากพอ

แต่คอมเมนต์ที่ทำให้ฉันคิดทบทวนนานที่สุดคือของคนที่เขียนว่า

“หรือว่านี่คือเหตุผลว่าทำไมคนที่สูญเสียอวัยวะถึงยังรู้สึกเจ็บ เพราะพลังงานของมันยังคงอยู่”

ฉันอ่านแล้วนิ่งไปพักหนึ่ง

คำถามนั้นไม่ได้ต้องการคำตอบ

แต่มันกระตุ้นให้เรากลับไปสำรวจว่าร่างกาย จิตใจ และพลังงานนั้น เกี่ยวพันกันอย่างลึกซึ้งขนาดไหน

มีคอมเมนต์อีกอันที่พูดถึงไฟป่า

เขาเขียนว่า “ลองจินตนาการตอนป่าโดนเผา พลังงานที่ถูกปล่อยออกมานั้นจะกลับมาในรูปของพายุทำลายล้าง”

ฉันไม่รู้ว่าจริงแค่ไหนในเชิงวิทยาศาสตร์

แต่ในเชิงความรู้สึก…ฉันว่ามันต้องใช่แน่ๆ

เราเอาเปรียบโลกมากไปไหมอะ

เราเผาป่า ถอนต้นไม้ ตัดหญ้า แล้วก็ปลูกคอนกรีต

เราเรียกมันว่า “พัฒนา”

แต่บางทีธรรมชาติก็อาจจะเรียกมันว่า “ความเงียบที่ถูกกลืนกิน”

คลิปใบไม้เรืองแสงอันนั้น อาจไม่ได้เปลี่ยนชีวิตฉันมาก แต่มันเปลี่ยนสายตาของฉันเวลามองใบไม้ธรรมดา


ตอนนี้…ใบไม้ไม่ใช่แค่ใบไม้

มันอาจเป็นข้อความเงียบ ๆ จากธรรมชาติ

เป็นการยิ้มเล็ก ๆ ที่แอบส่งมาทุกเช้า

ถ้าเราใจเย็นพอจะมองเห็นมัน


ถ้ามีใครรู้สึกเงียบพอแล้วตอนนี้ ลองมองออกไปนอกหน้าต่าง

เผื่อจะมีใบไม้ใบหนึ่งกำลังยิ้มให้คุณอยู่ก็ได้นะ


สมิทธิ

17 เมษายน 2568

ทวีวัฒนา

ความคิดเห็น