ชาวเมโตนี โลกของเมตอนอารยธรรมบนดาวเคราะห์รอบ Proxima Centauri

*ข้อมูลนี้มาจากการอ่านหนังสือเรื่อง Alien Races หาได้มโนคิดให้เองแต่อย่างใด


โลกของเมตอนอารยธรรมบนดาวเคราะห์รอบ Proxima Centauri

ดวงดาวที่ชื่อว่า “เมตอน” (Meton) เป็นหนึ่งในดาวเคราะห์ที่โคจรรอบระบบดาว Proxima Centauri ซึ่งเป็นระบบดาวที่อยู่ใกล้กับโลกมากที่สุดระบบหนึ่งในจักรวาล ดาว Proxima มีขนาดพอ ๆ กับดวงอาทิตย์ และอยู่ในระบบดาวคู่ร่วมกับ Alpha Centauri A และ B ซึ่งปลดปล่อยรังสีพลังงานอย่างเข้มข้นออกสู่ห้วงอวกาศ ขณะที่ดาว Proxima เองให้แสงและพลังงานที่แตกต่างไป แต่ก็ยังคงมีความรุนแรงในแบบเฉพาะตัว เมตอนซึ่งเป็นหนึ่งในดาวบริวาร มีลักษณะคล้ายโลก ทั้งในด้านภูมิอากาศและการควบคุมสภาพแวดล้อม

ชาวเมโตนี (Metoni) ซึ่งอาศัยอยู่บนเมตอน สืบเชื้อสายมาจากกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “Noor” ในสายพันธุ์ Lyran พวกเขาเป็นมนุษย์รูปร่างสูง สงบนิ่ง ไม่ก้าวร้าว และมีอายุขัยยืนยาวถึงสองพันปีในเวลาของโลก สังคมของพวกเขาไม่ได้ยึดถือกฎหมายเป็นหลัก แต่ใช้จรรยาบรรณและศิลปะเป็นรากฐานในการดำรงชีวิต ตัวอย่างหนึ่งคือรูปแบบของเมืองที่สร้างขึ้นด้วยวัสดุโปร่งแสงที่มีคุณสมบัติอินทรีย์ และยังให้ความสำคัญกับศาสตร์ของเสียงในหลายมิติ


ภาพของชาวเมโตนีจากหนังสือ Alien Races

แม้ว่าชาวเมโตนีจะมีความสามารถในการสื่อสารด้วยโทรจิต แต่พวกเขาก็ยังรักษาการใช้ภาษาพูดไว้ เพื่อใช้ติดต่อกับเผ่าพันธุ์อื่นในสมาพันธ์กาแล็กซี่ พวกเขาไม่ใช่เผ่าพันธุ์ที่เดินทางท่องอวกาศเพื่อแสวงหาอาณานิคมใหม่ แต่เดินทางด้วยความใฝ่รู้ทางวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะการมาเยือนโลกของเรานั้น เกิดขึ้นเพราะต้องการศึกษาทางวิทยาศาสตร์และทำการวิจัยจากสถานีอวกาศในวงโคจรรอบโลก

ยานของพวกเขามีลักษณะเป็นจานโลหะขนาดประมาณ 60 ฟุต ด้านบนมีโดมเตี้ย และมีหน้าต่างล้อมรอบเป็นชุด ๆ ทั้งหมดสามชุด สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือแสงเจิดจ้าที่ห่อหุ้มยาน ซึ่งเกิดจากพลังงานในสนามบิดเบือน (distortion field) ที่เปิดช่องให้สามารถเดินทางระหว่างสองจุดในอวกาศได้อย่างฉับพลัน โดยการบิดโครงสร้างของกาล-อวกาศ และกระโดดเข้าสู่ “อีเธอร์” หรือสนามพลังงานมิติอื่น

เทคโนโลยีนี้คล้ายกับการเดินทางผ่านควอนตัม แต่มีความซับซ้อนลึกซึ้งกว่านั้น เพราะผู้โดยสารภายในยานต้องปรับคลื่นความถี่ของตนเองให้สอดคล้องกับยาน เพื่อให้เดินทางในมิตินี้ได้สำเร็จ สิ่งนี้เรียกว่า “การเดินทางผ่านอีเธอร์” (etheric travel)

อีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ คือ เมื่อยานเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของดาวใด ๆ มักจะมีลักษณะเหมือนถูกคลุมด้วยหมอกหรือเมฆ นั่นคือผลจากกระบวนการควบแน่นของโมเลกุลในบรรยากาศ ที่เกิดขึ้นจากความร้อนซึ่งแผ่ออกจากสนามพลังงานรอบยานระหว่างการเปลี่ยนมิต

ภาพประกอบสร้างจาก AI

สำหรับยานแม่ของชาวเมโตนีนั้นมีขนาดใหญ่มาก มีรูปร่างยาวเป็นทรงกระบอก ปลายมน (ซึ่งแตกต่างจากยานของชาวพลีเอเดียนที่มีปลายแบน) ยานเหล่านี้ไม่เคยลงจอดบนพื้นผิวใด ๆ และสามารถบรรทุกยานลูกได้มากถึง 24 ลำ

อ้างอิง

Danaan, E. (2020). A gift from the stars: Extraterrestrial contacts and guide of alien races. Independently published.


Smithi สรรหามาเล่า



ความคิดเห็น