รีวิวหนังสือเรื่อง Where Reincarnation and Biology Intersect เขียนโดย Ian Stevenson
โดย สมิทธิ อินทร์พิทักษ์
หนังสือเล่มนี้กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างการกลับชาติมาเกิด (reincarnation) และลักษณะทางกายภาพ เช่น ปาน (birthmarks) และความผิดปกติทางร่างกาย (birth defects) โดยผู้เขียนนำเสนอหลักฐานและกรณีศึกษาที่สนับสนุนแนวคิดว่า
"ลักษณะเหล่านี้อาจมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตก่อนหน้า (previous lives) ของบุคคลนั้น ๆ"
หนังสือเน้นการวิเคราะห์กรณีศึกษาที่รวบรวมจากหลายวัฒนธรรม และให้ความสำคัญกับแนวคิดว่าลักษณะทางกายภาพบางอย่างอาจมีความเชื่อมโยงกับบาดแผลหรือร่องรอยจากชีวิตก่อนหน้า โดยมีทั้งหมด 26 บท โดยครอบคลุมหัวข้อที่หลากหลาย ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่เกิดจากจิตใจของตัวเอง การทำนายพยากรณ์เกี่ยวกับปาน การตีความปานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตในชาติก่อน ๆ ไปจนถึงการศึกษากรณีของแฝดที่จดจำชีวิตก่อนหน้าได้ โดยจะขอสรุปสั้น ๆ ตามเนื้อหาในหนังสือเรียงตามบทดังนี้
บทที่ 1 กล่าวถึงการค้นพบเด็กที่อ้างว่าจำชีวิตก่อนหน้าได้ในหลายประเทศ และชี้ให้เห็นความสำคัญของกรณีที่มีปานหรือความผิดปกติทางร่างกายเพื่อเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ ในบทนำนี้ Stevenson กล่าวถึงกรณีศึกษาเด็กที่อ้างว่าจำชีวิตก่อนหน้าได้ ซึ่งพบบ่อยในวัฒนธรรมที่มีความเชื่อในเรื่องการกลับชาติมาเกิด เช่น ประเทศในเอเชียใต้ ชนเผ่าในแอฟริกา และบางกลุ่มชนพื้นเมืองในอเมริกาเหนือ ผู้เขียนชี้ให้เห็นว่ากรณีเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับปานหรือความผิดปกติทางร่างกายที่สามารถเชื่อมโยงกับเหตุการณ์หรือบาดแผลในชีวิตก่อนหน้า ตัวอย่างที่เด่นชัดคือกรณีของเด็กในศรีลังกาที่เกิดมาพร้อมกับปานที่สอดคล้องกับบาดแผลของคนที่เสียชีวิตจากการถูกแทง ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็นหลักฐานของการกลับชาติมาเกิด
บทที่ 2 กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่สัมพันธ์กับภาพในจิตใจของตัวเอง มีการยกตัวอย่างกรณีสติ๊กมาตา (stigmata) และผลของจิตใจที่สามารถสร้างรอยแผลหรือความเปลี่ยนแปลงในร่างกายได้ กรณีของสติ๊กมาตา (stigmata) ที่รอยแผลปรากฏในตำแหน่งที่สอดคล้องกับการตรึงกางเขนของพระเยซู ตัวอย่างที่ยกมาคือ St. Francis of Assisi ผู้ซึ่งมีรอยแผลที่มือและเท้า ซึ่งคล้ายกับตำแหน่งตะปูที่ตรึงพระเยซู Stevenson ยังเปรียบเทียบกรณีนี้กับการวิจัยทางจิตวิทยาที่พบว่าความเชื่อหรือภาพจิตสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย เช่น การเกิดแผลพุพองจากการถูกสะกดจิต
บทที่ 3 ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่สัมพันธ์กับภาพจิตใจของผู้อื่นกล่าวถึงอิทธิพลของความคิดหรือเจตจำนงของบุคคลอื่นที่อาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ตัวอย่างที่เด่นชัดคือกรณีของแม่ที่พัฒนาความเจ็บปวดในตำแหน่งเดียวกับที่ลูกได้รับบาดเจ็บ เช่น แม่คนหนึ่งที่เห็นลูกถูกกระจกบาดมือแล้วรู้สึกเจ็บปวดในตำแหน่งเดียวกันจนเกิดการอักเสบในมือของเธอ
บทที่ 4 ถึง 8 กล่าวถึงปานและร่องรอยที่เกี่ยวข้องกับบาดแผลจากอดีตชาติ แบ่งย่อย ๆ เป็นกรณีศึกษาที่เกี่ยวข้องกับปานที่มีลักษณะคล้ายบาดแผลจากชีวิตก่อนหน้า เช่น บาดแผลจากการถูกยิง หรือถูกผ่าตัด Stevenson แบ่งกรณีศึกษาออกเป็นหลายประเภท เช่น บทที่ 4 ปานที่สอดคล้องกับบาดแผลของบุคคลที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ บทที่ 5 ปานที่สอดคล้องกับบาดแผลซึ่งยืนยันได้จากคำบอกเล่าของพยาน บทที่ 6 ปานที่สอดคล้องกับบาดแผลที่ยืนยันได้จากเวชระเบียน ตัวอย่างหนึ่งคือกรณีของเด็กในอินเดียที่เกิดมาพร้อมปานบริเวณหน้าอก ซึ่งตรงกับตำแหน่งที่คนในหมู่บ้านเดียวกันถูกยิงเสียชีวิต
ส่วนบทที่ 9 ถึง บทที่ 14 การเปลี่ยนแปลงและลักษณะอื่น ๆ ของปาน วิเคราะห์กรณีที่ปานมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างหรือสี และเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับปานในการระบุชีวิตในชาติก่อน Stevenson กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงของปาน เช่น สี รูปทรง หรือขนาด ที่อาจเปลี่ยนไปตามช่วงเวลา และการเชื่อมโยงระหว่างปานกับบาดแผลในชีวิตก่อนหน้า ตัวอย่างเช่น เด็กที่เกิดมาพร้อมปานรูปคล้ายรอยเชือกรัด ซึ่งในชีวิตก่อนหน้ามีประวัติว่าถูกฆ่าด้วยการรัดคอ
บทที่ 15 เกี่ยวกับการตีความปานในมุมมองต่าง ๆ และความเป็นไปได้ เช่น ความบังเอิญ การถ่ายทอดทางจิตวิญญาณ หรือการกลับชาติมาเกิด บทนี้วิเคราะห์คำอธิบายหลายแนวทาง เช่น การบังเอิญ (coincidence) การรับรู้ด้วยจิตวิญญาณ (extrasensory perception) หรือการกลับชาติมาเกิด Stevenson ชี้ว่าแนวคิดเรื่องการกลับชาติมาเกิดสามารถอธิบายความเชื่อมโยงระหว่างปานและบาดแผลในชีวิตก่อนหน้าได้ดีกว่าแนวคิดอื่น ๆ
บทที่ 16 ถึง บทที่ 20 ว่าด้วยความผิดปกติทางร่างกายที่เกี่ยวข้องกับชีวิตในอดีตชาติ ครอบคลุมกรณีศึกษาความผิดปกติที่แขน ขา ศีรษะ และส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย รวมถึงการทดลองที่จำลองความผิดปกติเพื่อยืนยันทฤษฎี
บทที่ 21 ถึง บทที่24 การเชื่อมโยงโรคภายในร่างกายและบุคลิกภาพกับชีวิตในอดีตชาติ กล่าวถึงโรคและพฤติกรรมที่อาจมีที่มาจากชีวิตก่อนหน้า เช่น อาการกลัว (phobias) หรือความชอบเฉพาะเจาะจง เช่น เด็กที่กลัวน้ำอย่างรุนแรงเพราะชีวิตก่อนหน้าจมน้ำเสียชีวิต
บทที่ 25 มีการยกกรณีแฝดที่จดจำชีวิตก่อนหน้าได้ นำเสนอกรณีศึกษาแฝดที่ทั้งคู่มีความทรงจำเกี่ยวกับชีวิตก่อนหน้า ตัวอย่างหนึ่งคือแฝดในศรีลังกาที่อ้างว่าจำได้ว่าทั้งคู่เคยเป็นพี่น้องกันในชีวิตก่อนหน้าและเสียชีวิตพร้อมกันจากอุบัติเหตุ
บทที่ 26 เป็นการอภิปรายสรุปข้อมูลอย่างกว้าง ๆ สรุปหลักฐานทั้งหมดและอภิปรายถึงความเป็นไปได้ของทฤษฎีการกลับชาติมาเกิด รวมถึงข้อจำกัดและทิศทางการวิจัยในอนาคต การศึกษาเหล่านี้ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้เข้าใจเรื่องการกลับชาติมาเกิด แต่ยังช่วยตอบคำถามที่วิทยาศาสตร์ปัจจุบันยังไม่สามารถอธิบายได้
หนังสืออ้างอิง
Stevenson, I. (1997). Where reincarnation and biology intersect. Praeger.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น