วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2567

บันทึกลับ โลกกลวง กับ ช้างที่ขั้วโลก

   

เมื่อวันเสาร์ระหว่างที่นั่งรถไปเรียนก็ได้ดูคลิปวิดีโอไปเรื่อยเปื่อยจนไปถึงคลิปหนึ่งที่พูดถึงทฤษฎีโลกกลวงหรือที่รู้จักกันในภาพยนตร์เรื่องก็อตซิลล่าปะทะคอง  คือ ทฤษฎี Hollow Earth ซึ่งเมื่อก่อนมีความคิดว่าโลกของเรานั้นมีโลกอีกใบอยู่ภายใต้เปลือกโลก ซึ่งมุมมองดังกล่าวเกิดขึ้นตอนที่ยังมีความเชื่อว่าโลกแบน   แนวคิดทฤษฎี Hollow Earth เชื่อว่าใต้โลกยังมีพระอาทิตย์ขนาดเล็กอยู่อีกหนึ่งดวงแต่วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าโลกกลมเนื่องจากภาพเชิงประจักษ์จากดาวเทียมหรือการออกไปสำรวจอวกาศ


     จากความเชื่อที่ว่าโลกแบนและมีดวงอาทิตย์โคจรรอบโลกนั้นก็กลายเป็นโลกกลมและโลกต่างหากที่โคจรรอบดวงอาทิตย์  อย่างไรก็ดีภาพยนตร์สมัยใหม่ยังคงนำเรื่องราวเกี่ยวกับทฤษฎี Hollow Earth มาสร้างหรือเป็นประเด็นในเรื่องอยู่บ่อยครั้ง 


จากการหาข้อมูลไปเรื่อยก็ได้พบกับเรื่องราวการสำรวจขั้วโลกเหนือและได้สะดุดกับชื่อของคนหนึ่งนั่นคือ ริชาร์ด อี ไบร์ด (Richard E. Byrd) ซึ่งเป็นนักบินและนักสำรวจ เขาสำรวจทั้งอาร์กติกและแอนตาร์กติกา ไบร์ดมีชื่อเสียงในปี 1926 ในฐานะชายคนแรกที่ได้ชื่อว่าบินไปยังขั้วโลกเหนือ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เขาได้ลาดตระเวนต่อต้านเรือดำน้ำในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ และกลายเป็นผู้บุกเบิกในการนำทางในระยะทางไกล ทั้งทางน้ำและทางอากาศ 


ความปรารถนาของ Byrd ที่จะทดสอบอุปกรณ์นำทางในสภาพอากาศสุดขั้วทำให้เขาไปที่กรีนแลนด์ในปี 1925 และจากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปทางเหนือโดยใช้เข็มทิศและการส่งสัญญาณวิทยุทางอากาศคลื่นสั้น การเดินทางไปกลับทางอากาศของเขาไปยังขั้วโลกเหนือซึ่งได้รับทุนจากนักอุตสาหกรรมชาวอเมริกันผู้มั่งคั่ง เสร็จสิ้นภายในเวลาประมาณสิบหกชั่วโมงในวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2469 และทำให้เบิร์ดมีชื่อเสียงระดับนานาชาติ


ซึ่งความจริงแล้วชีวประวัติของเขานั้นมีความน่าสนใจอยู่พอตัวแต่สำหรับเราแล้ว สิ่งที่น่าสนใจกว่าก็คือคำพูดของเขาที่ว่า


 "I'd like to see the land beyond the Pole. That area  beyond the Pole is the center of the Great Unknown"  


"ฉันอยากเห็นดินแดนที่อยู่เหนือขั้วโลก พื้นที่นั้นที่อยู่เหนือขั้วโลกเป็นศูนย์กลางของ Great Unknown"


ในตอนนั้นพื้นที่ขั้วโลกเป็นดินแดนที่ลึกลับเพราะยังไม่มีใครได้เดินทางไปสำรวจ  คำว่า Unknown แปลว่าไม่รู้จัก ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องท้าทายไม่เพียงแค่เขาเท่านั้น ในมุมมองของมนุษย์ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการรู้และเข้าใจดินแดนแห่งใหม่นี้  สิ่งที่น่าสนใจไปกว่าประโยคดังกล่าวก็คือบันทึกที่กล่าวถึงขั้วโลกเหนือในขณะที่บินอยู่เหนือขั้วโลกนั้นโดยเขาได้บันทึกไว้ดังนี้ 


“I  alter altitude  to 1400 feet and execute at sharp left turn to better examine the valley below.  It is  green with either moss or a type of tight knit grass. the light here seems different. I can not see the sun anymore. We make another left turn and we spot what seems to be a large animal of some kind below us. it appears to be an elephant. No it look more like a mammoth.  This is incredible. “


“ฉันเปลี่ยนระดับความสูงเป็น 1400 ฟุตและดําเนินการที่เลี้ยวซ้ายอย่างฉับพลันเพื่อตรวจสอบหุบเขาด้านล่างให้ดีขึ้น มันมีสีเขียว น่าจะเป็นตะไคร่น้ําหรือหญ้าถักแน่นชนิดหนึ่ง แสงที่นี่ดูแตกต่างออกไป ฉันมองไม่เห็นดวงอาทิตย์อีกต่อไป เราเลี้ยวซ้ายอีกครั้งและเห็นสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นสัตว์ขนาดใหญ่บางชนิดด้านล่างเรา ดูเหมือนจะเป็นช้าง ไม่ มันดูเหมือนแมมมอธมากกว่า นี่มันเหลือเชื่อมาก”


Ahead we spot what seems to be a city !!!! This is impossible !! Aircraft seems light and oddly buoyant. The controls refuse to respond !!! My God !!!


ข้างหน้ามองเห็นสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นเมือง !!!! เป็นไปไม่ได้ !! เครื่องบินดูเบาและลอยตัวอย่างผิดปกติ การควบคุมไม่ตอบสนอง !!! โอ้พระเจ้า !!!


ข้อความที่ยกมาเป็นเพียงบางส่วนบางตอนเท่านั้นหากต้องการอ่านบันทึกฉบับเต็ม สามารถอ่านได้ที่หนังสือเรื่อง The Secret Lost Diary of Admiral Richard E. Byrd and The Phantom of the Poles 


จากข้อความดังกล่าวนี้ทำให้เกิดความมึนงง ชวนสงสัย เนื่องด้วยพื้นที่ที่เต็มไปด้วยหิมะและความหนาวเย็นไม่น่าจะมีสิ่งมีชีวิตลักษณะแบบช้างหรือพื้นที่สีเขียวที่เต็มไปด้วยต้นไม้และที่ยิ่งกว่านั้นคือ  เมือง   


จากบันทึกนี้จึงทำให้พื้นที่ขั้วโลกเหนือหรือแม้กระทั่งขั้วโลกใต้เอง เป็นสถานที่ลึกลับ มีความพิเศษ และยังทำให้ทฤษฎีโลกกลวงถูกนำมาผลิตซ้ำอยู่บ่อยครั้งเพราะตามทฤษฎีนี้กล่าวว่าหนทางเข้าและออกโลกอีกใบที่อยู่ภายใต้โลกนั้นอยู่ที่บริเวณขั้วโลกทั้งสองนั่นเอง 


แม้ว่าปัจจุบันวิทยาศาสตร์จะพิสูจน์ถึงความเป็นไปไม่ได้ของทฤษฎีดังกล่าวแต่มนุษย์ก็ยังคงตั้งคำถามและสงสัยในสิ่งที่ยังไม่รู้และนำเรื่องราวทฤษฎีโลกกลวงมาเติมเต็มจินตนาการและสร้างสรรค์เป็นผลงานเพื่อความบันเทิง เพื่อความสนุกและเพื่อกระตุ้นต่อมแห่งความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ที่ไม่รู้จบ 


สมิทธิ  อินทร์พิทักษ์

25 มีนาคม 2567

บางบอน กทม.

อ่านไป พิมพ์ไป ง่วงไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น